
Fibromyalgia เป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อย (มีเพียง 4% ของประชากรเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากมัน) และมักเกิดกับผู้หญิง อายุระหว่าง 40 ถึง 50 ปี อาการของโรคนี้ประกอบด้วยอาการปวดตามกระดูกและกล้ามเนื้อ – และมักสับสนกับผลของการบาดเจ็บหรือการเคลื่อนไหวผิดวิธี

แท้จริงแล้วลักษณะอย่างหนึ่งของโรคนี้คือความเรื้อรัง ดังนั้นสัญญาณเตือนภัยแรกจะต้องเป็นความถี่ที่ความเจ็บปวดปรากฏขึ้นอย่างแน่นอนหากเป็นเป็นประจำหรือเป็นประจำเดือนจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อคลายข้อสงสัย
แม้ว่าต้นกำเนิดจะไม่ชัดเจนนัก แต่วิทยาศาสตร์ได้เปิดเผยบางแง่มุม (ที่จริงค่อนข้างหลากหลาย) ที่อาจเป็นพื้นฐานของโรคไฟโบรมัยอัลเจีย ได้แก่:
ระบบประสาทไม่สมดุล
สารเคมีในระบบประสาทไม่สมดุล
การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองบางส่วนผิดปกติ
ลักษณะทางพันธุกรรม
การติดเชื้อ
การอักเสบ
โรคกล้ามเนื้อ
ภาวะซึมเศร้า
อาการปวดที่เกิดจากโรคนี้อาจส่งผลต่อแขน บริเวณคอ เอว และข้อต่อต่างๆ ความรุนแรงสูงสุดเกิดขึ้นเมื่อตื่นนอน ดีขึ้นในตอนกลางวันและกลับมาเป็นอีกครั้งในตอนเย็น
อาการปวดเหล่านี้สามารถเกิดร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ ที่ส่งผลเสียต่อความสงบ เช่น นอนไม่หลับ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ตาและปากแห้ง วิตกกังวล ปวดขา คลื่นไส้ เป็นต้น
ธรรมชาติบำบัดโรคไฟโบรมัยอัลเจีย
ไธม์
มาเตรียมการแช่ด้วยโหระพา 2 ช้อนชากับน้ำครึ่งลิตร ปริมาณที่แนะนำ: หนึ่งแก้วในตอนเช้าและอีกถ้วยเมื่อเริ่มมีอาการปวด
คุณสามารถใช้การแช่แบบเดียวกับการแช่น้ำอุ่นได้ เทปริมาณมากลงในอ่างที่เราจะเติมน้ำร้อนลงไปแช่ตัวอย่างน้อยยี่สิบนาที
น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล
ในกรณีนี้ เพียงใช้ผ้าชุบน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์แล้วถูบริเวณที่ปวด
ขิง
ให้ดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้องสักแก้วโดยเราจะผสมขิงผงสองช้อนชา ให้ทำซ้ำวันละ 2 ครั้ง
ดอกดาวเรือง
เทแอลกอฮอล์ 1 ลิตรที่อุณหภูมิ 45 องศาลงในภาชนะขนาดใหญ่ที่ปิดสนิทและดอกดาวเรือง 35 กรัม เราปิดและปล่อยให้พักผ่อนเป็นเวลาอย่างน้อยสิบห้าวัน หลังจากนั้นเราสามารถใช้สำลีเพื่อดำเนินการประคบของเหลวนี้
คำแนะนำอื่นๆ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าในอาหารของเรามีอาหารที่มี แมกนีเซียม (ผักกาดหอม หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม) หรือรับประทานอาหารเสริมที่เหมาะสม
องค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่างคือ ซีลีเนียม ซึ่งเราสามารถพบได้ในผลไม้ (ส้มและแอปเปิ้ล) หรือในผัก (ฟักทอง กระเทียม กะหล่ำปลี, หอมหัวใหญ่).
อย่าลืมบริโภคอาหารที่เป็นแหล่งของ แคลเซียม เช่น ผลิตภัณฑ์จากนมและผักโขม เพิ่มการกินวิตามินซี (ส้ม สตอเบอรี่ บลูเบอรี่)